11 มกราคม 2553

ผู้ที่เข้าข่ายและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)

อาการเบาหวาน (Diabetes Symptom) ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วคือเวลาฉี่แล้วมดจะขึ้นปัสสาวะ นอกจากนี้อาการอื่นๆเช่น คอแห้ง กินเก่ง ดื่มน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักตัวลดลงทั้งๆที่กินเก่ง นี่คืออาการของโรคเบาหวานที่สามารถสังเกตได้ไม่ยาก แต่บางทีผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะมีอาการที่กล่าวมาเพียงบางอาการเท่านั้นและอาการก็ไม่ชัดเจนทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นความผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการทำงานหนักหรือเครียด

การตรวจสุขภาพประจำปี (Annual Health Check) จะช่วยให้คุณรู้ตัวแต่เนิ่นๆว่าเป็นโรคร้ายอะไรบ้างหรือไม่ หากคุณมีอาการที่กล่าวมาข้างต้นแม้เพียงบางอาการก็ควรไปตรวจร่างกายและเน้นที่การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อความแน่ใจว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ โรคที่ร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน หากผู้ป่วยรู้ตัวแต่เนิ่นๆจะทำให้การดูแลรักษาทำได้ง่ายขึ้นกว่าการที่ตรวจพบเมื่ออาการเบาหวานเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว

คนที่อยู่ในข่ายที่มีโอกาสเป็นเบาหวาน (Diabetes) คือ อายุเกิน 45 ปีและมีรูปร่างที่เรียกว่า “อ้วน” หากเคยมีญาติสายตรงเคยเป็นเบาหวานมาก่อนด้วยแล้วจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเบาหวาน หากเคยตรวจร่างกายแล้วปรากฏว่าระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างสูงแม้จะยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าเบาหวานก็อาจเป็นน้องเบาหวานก็ได้ ส่วนข้อสังเกตอื่นๆที่ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานเช่น เคยมีประวัติโรคหลอดเลือดเสื่อม ประวัติการติดเชื้อในระบบขับถ่าย ผิวหนังหรือระบบสืบพันธุ์

หากคุณหรือคนรอบตัวมีประวัติหรือคุณสมบัติตามที่กล่าวมาแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องครบทุกอาการก็เข้าข่ายที่จะเป็นโรคเบาหวานได้แล้ว หากคุณมีอายุเกิน 45 ปีคุณควรหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากขึ้นและหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี (Annual Health Check) หากสงสัยว่าตัวเองอาจเป็นเบาหวานควรแจ้งให้ทางโรงพยาบาลเน้นการตรวจเบาหวานโดยเฉพาะ โรคเบาหวานโดยตัวของโรคเองแล้วไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงเพียงแต่โรคเบาหวานจะเป็นจุดเริ่มทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆที่อันตรายตามมาได้ หากตรวจพบเบาหวานแต่เนิ่นๆจะมีข้อดีคือช่วยให้การดูแลควบคุมอาการทำได้ง่ายขึ้น สิ่งที่ต้องตระหนักอย่างหนึ่งเกี่ยวกับโรคเบาหวานคือโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้สิ่งที่พึงทำได้คือต้องควบคุมอาการของโรคเบาหวานและอยู่กับเบาหวานอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็เพียงพอแล้ว