กลางคืนนอกจากจะสร้างความหงุดหงิดรำคาญให้กับผู้ป่วยแล้วยังทำให้ผู้ป่วยพักผ่อนไม่เพียงพอซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
อาการโรคเบาหวานของผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) เมื่อเลือดไหลผ่านไต ไตก็จะทำหน้าที่กรองหรือคัดแยกระหว่างของดีและของเสียที่อยู่ในเลือด ไตจะจัดการส่งของดีเช่นน้ำตาลและสารอาหารต่างๆกลับคืนไปกับกระแสเลือดและส่งของเสียอื่นๆ ที่ปะปนอยู่ในเลือด ทิ้งไปกับน้ำปัสสาวะจึงเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเบาหวานต้องปัสสาวะบ่อยๆ
ความสามารถของไตในการคัดแยกเพื่อนำสารอาหารดีกลับคืนและส่งของเสียทิ้งไปกับน้ำปัสสาวะก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (คนปกติ) ความสามารถขอไตจะสามารถดึงน้ำตาลกลับคืนสู่ระบบได้ทั้งหมด ดังนั้นการตรวจปัสสาวะของคนปกติที่ไม่ได้เป็นเบาหวานจะตรวจไม่พบน้ำตาลในปัสสาวะ
แต่ในกรณีของผู้ป่วยที่มีอาการโรคเบาหวานนั่นคือระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้เกินความสามารถของไตที่จะนำน้ำตาลกลับสู่ระบบได้ คนที่เป็นโรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) จึงมีน้ำตาลหลุดออกมาปะปนอยู่ในปัสสาวะและเนื่องจากน้ำตาลส่วนเกินที่ไตไม่สามารถดูดคืนสู่ระบบได้จะถูกส่งผ่านไปกับน้ำปัสสาวะคือต้องมีน้ำเป็นตัวส่งผ่านน้ำตาลออกจากร่างกายจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานต้องถ่ายปัสสาวะบ่อยกว่าคนปกติ
การตรวจหาอาการโรคเบาหวานด้วยการตรวจปัสสาวะนั้น (Urinary Analysis) ถ้าผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ประมาณ 140-180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร การตรวจปัสสาวะว่ามีน้ำตาลปนอยู่มากน้อยหรือไม่นั้นอาจได้ผลที่ไม่ชัดเจนเนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่ระดับนี้ยังไม่เกินความสามารถของไตที่คอยสกัดกั้นและดึงน้ำตาลกลับคืนสู่ระบบได้ การตรวจหาเบาหวานจากการตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะจึงอาจให้ผลที่ไม่แน่นอนหากต้องการผลการตรวจว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ที่ได้ผลแน่นอนควรใช้วิธีตรวจหาน้ำตาลในเลือด (FBS : Fasting Blood Sugar) จะให้ผลที่แน่นอนกว่า